อัตราผลกำไรของบริษัทจีนได้ปรับตัวลงในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงชะลอตัว
อัตราผลกำไรสุทธิเฉลี่ยของบริษัท 938 แห่งที่เปิดเผยรายงานไตรมาส 3 หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นนั้น ลดลง 1.29% สู่ระดับ 5.91% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนอัตราผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ยในไตรมาส 3 ขยับลง 0.74% จากไตรมาส 2 สู่ระดับ 5.7%
บริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์สารสนเทศ และวัสดุก่อสร้าง อยู่ในกลุ่มบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักที่สดในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. โดยอัตราผลกำไรเฉลี่ยร่วงลง 2.93%, 2.35% และ 2.3% ตามลำดับ ขณะที่ภาคธุรกิจโลหะกลุ่มเหล็กก็มีอัตราผลกำไรที่ติดลบ
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจ 6 ภาค ซึ่งรวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม บริการสาธาณะ อิเลคทรอนิกส์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การค้าสินค้าทั่วไป และอุตสาหกรรมเบา มีผลกำไรเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. เมื่อเทียบรายไตรมาส
นอกเหนือจาก 6 ภาคธุรกิจดังกล่าว อัตราผลกำไรของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริการสาธารณะหรือธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส
การปรับตัวย่ำแย่ของตลาดหุ้นในจีนสะท้อนถึงศักยภาพในการทำกำไรที่ลดลง ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อบริษัทจีน
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2,000 จุดในช่วงสั้นๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับแต่เดือนก.พ.2552 ก่อนมาปิดที่ 2,004.17 จุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.
ข้อมูลของทางการแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว 7.4% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 3 ซึ่งชะลอลงจาก 7.6% ในช่วงไตรมาส 2 และ 8.1% ในไตรมาสแรก สำนักข่าวซินหัวรายงาน