กระทรวงการคลังสหรัฐเผยรัฐบาลสหรัฐคาดว่าจะกู้เงินจำนวน 2.88 แสนล้านดอลลาร์จากตลาดการเงิน เพื่อใช้ในด้านงบประมาณดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า “ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2555 กระทรวงการคลังคาดว่าจะออกตราสารหนี้ในวงเงิน 2.88 แสนล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าปริมาณเงินสดสำรอง ณ สิ้นเดือนธันวาคมจะอยู่ที่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ตัวเลขการกู้ยืมครั้งนี้ต่ำกว่าที่ได้ประมาณการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 จำนวน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์"
ทั้งนี้ กระทรวงได้ออกตราสารหนี้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.64 แสนล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ขณะที่มีปริมาณเงินสดสำรอง ณ สิ้นไตรมาสที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงยังมีแผนออกตราสารหนี้ในวงเงิน 3.42 แสนล้านดอลลาร์ ในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2556 โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคมจะมีปริมาณเงินสดสำรอง 3 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐมียอดงบประมาณขาดดุลสูงกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 ลดลง 2.07 แสนล้านดอลลาร์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ดี นับเป็นปีที่ 4 ที่รัฐบาลสหรัฐมียอดงบประมาณขาดดุลติดต่อกันเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เนื่องจากการเกิดวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจชะลอตัว ปริมาณเงินกู้ของรัฐบาลสหรัฐจึงได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.41 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2552 และ 1.29 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2553