นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์(ฉบับที่...) พ.ศ.... ในส่วนของบทนิยามข้อมูลการบริหารสิทธิมาตรการทางเทคโนโลยี และข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ต หรือการให้ความคุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั้นได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้รอนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป
ทั้งนี้ หากมีผลบังคับใช้แล้วจะทำให้ผู้ที่ทำลายมาตรการทางเทคโนโลยีเพื่อเข้าใช้งาน เช่น การแฮคพาสเวิร์ด เพื่อเข้าไปดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ตจะถือว่ามีความผิด 2 กระทงคือ การแฮคพาสเวิร์ด และการเข้าไปใช้งานข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์(ฉบับที่...) พ.ศ.... ในส่วนการยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการ และการบันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการลักลอบแอบถ่ายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เพื่อนำไปทำซ้ำและขายในเชิงพาณิชย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นางปัจฉิมา มั่นใจว่า หากการแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ทั้ง 2 ประเด็นผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ก่อนเดือน เม.ย.56 จะมีส่วนช่วยให้ไทยหลุดจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สินทางปัญญา(PWL)ตามมาตรา 301 พิเศษ กฎหมายการค้าสหรัฐฯได้แน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ผลักดันให้ไทยดำเนินการ ซึ่งสหรัฐฯ จะพิจารณาและประกาศสถานะของไทยในสิ้นเดือน เม.ย.56
สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า(ฉบับที่...) พ.ศ.... ในส่วนการขยายขอบเขตความคุ้มครอง ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และระยะเวลาการจดทะเบียน ปรับปรุงค่าธรรมเนียมนั้น คาดว่า ภายในปี 56 หากการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะทำให้เจ้าของสินค้าสามารถนำกลิ่นและเสียงของสินค้าตนมาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ เช่น กลิ่นหอมของสบู่ตรานกแก้วที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีมานานแล้ว หรือเสียงเพลง Intro เข้าช่วงข่าวของช่อง 9 อสมท. เป็นต้น
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวด้วยว่า ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่...) ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.)เสนอ โดยได้กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการค้าตามประมวลกฎหมายอาญาเฉพาะที่เกี่ยวกับการปลอม หรือการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้า หรือความผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอันมีลักษณะเป็นการค้านั้นจะถือว่าเป็นความผิดมูลฐาน ซึ่งหากมีการละเมิดเพื่อประโยชน์ทางการค้า ผู้กระทำการละเมิดจะต้องถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายดังกล่าวด้วย
"ร่างกฎหมายดังกล่าวได้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวาระที่ 3 แล้ว หากมีผลบังคับใช้จะช่วยให้การปราบปรามสินค้าละเมิดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการยึดทรัพย์ผู้ละเมิด จะเป็นการตัดวงจรในการกระทำความผิดได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลให้ผู้กระทำความผิดเกรงกลัว และทำให้ปัญหาการละเมิดลดน้อยลงได้แน่นอน" นางปัจฉิมา กล่าว