กฟผ.เดินหน้าแผนโรงไฟฟ้าถ่านหิน หลังแนวโน้มค่าไฟพุ่งตามต้นทุน LNG

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 1, 2012 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แสดงความเป็นห่วงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าในอนาคตที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 5 บาทต่อหน่วย เนื่องจากแนวโน้มประเทศไทยจะมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) มาผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง LNG มีราคาสูงกว่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยและพม่า 2 เท่า

ปัจจุบันราคาก๊าซเฉลี่ยในประเทศอยู่ที่ 320 บาทต่อล้านบีทียู

ดังนั้น หากมีเชื้อเพลิงโดยเฉพาะถ่านหินเข้ามาเสริม จะช่วยลดการใช้ก๊าซและทำให้ค่าไฟไม่เพิ่มขึ้นมาก โดยตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (PDP) จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ โรงละ 800 เมกะวัตต์ จำนวน 5 โรง รวมเป็น 4,000 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงแรกตามแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) หากก่อสร้างได้จะเริ่มผลิตไฟฟ้าในปี 2562

ขณะเดียวกัน กฟผ. ได้เตรียมแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่แม่เมาะทดแทนโรงไฟฟ้าเก่า กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ ก่อสร้างเสร็จปี 2561 ใช้เงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ยอมรับและไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ ก็จำเป็นต้องใช้ LNG เพิ่มขึ้น และจะทำให้สัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าอาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ซึ่งเป็นความเสี่ยงทั้งราคาและความปลอดภัยด้านไฟฟ้า รวมถึงยังอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ