ปัจจุบันราคาก๊าซเฉลี่ยในประเทศอยู่ที่ 320 บาทต่อล้านบีทียู
ดังนั้น หากมีเชื้อเพลิงโดยเฉพาะถ่านหินเข้ามาเสริม จะช่วยลดการใช้ก๊าซและทำให้ค่าไฟไม่เพิ่มขึ้นมาก โดยตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (PDP) จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ โรงละ 800 เมกะวัตต์ จำนวน 5 โรง รวมเป็น 4,000 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงแรกตามแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) หากก่อสร้างได้จะเริ่มผลิตไฟฟ้าในปี 2562
ขณะเดียวกัน กฟผ. ได้เตรียมแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่แม่เมาะทดแทนโรงไฟฟ้าเก่า กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ ก่อสร้างเสร็จปี 2561 ใช้เงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ยอมรับและไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ ก็จำเป็นต้องใช้ LNG เพิ่มขึ้น และจะทำให้สัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าอาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ซึ่งเป็นความเสี่ยงทั้งราคาและความปลอดภัยด้านไฟฟ้า รวมถึงยังอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วย