สำหรับปิโตรเคมีที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคจะมีผลกระทบและอ่อนไหวต่อสถานการณ์เศรษฐกิจน้อยกว่าปิโตรเคมีประเภทอื่นๆ ซึ่งในปีนี้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีประเภทที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมาก โดยเติบโตมากกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษบกิจ(GDP) ของประเทศ หรืออย่างชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ก็เติบโตถึง 30% อุตสาหกรรมด้านบรจุภัณฑ์ก็เติบโตถึง 10% รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นทั้งการก่อสร้างและการบริโภคภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมไตรมาส 4/55 เรื่องของราคาน้ำมันที่ขยับลงจะมีผลด้านจิตวิทยาต่อผู้สั่งสินค้า ทำให้เกิดการชะลอคำสั่งซื้อ ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเสร็จสิ้นลงและพายุแซนดี้คลี่คลายไปแล้ว การผลักดันนโยบายต่างๆของสหรัฐฯจะเห็นผลมากขึ้น และในปีหน้าเรื่องการเมืองของต่างประเทศมีผลค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นจีนและฝรั่งเศส ทำให้ปีหน้าหลายๆอย่างน่าจะดีขึ้น และในแง่ของปิโตรเคมีปีหน้าก็น่าจะดีกว่าปีนี้
นายอธิคม กล่าวว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไม่ต่างกับอุตสาหกรรมทั่วๆไป อย่างแรกต้องมีวัตถุดิบที่พร้อม มีเทคโนโลยีที่ดีที่จะเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ตามต้องการได้ มีตลาดที่ดี ปัจจุบันอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่อาเซียน เนื่องจากเบื้องต้นด้านวัตถุดิบ มีโรงงานกลั่นน้ำมันที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับป้อนให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีเทคโนโลยีที่ใช้สร้างความแตกต่างในการผลิตได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการผลิตหรือลดการผลิต ใช้พลังงานน้อยลงหรือทำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาได้ อีกทั้งมีตลาดที่มีขนาดพอเพียงในการสร้างอุตสาหกรรม