ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.180 เยน จากระดับของวันพุธที่ 79.760 เยน และดีดตัวขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9319 ฟรังค์ จากระดับ 0.9309 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรอ่อนแรงลง 0.14% แตะที่ 1.2940 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.03% แตะที่ 1.6123 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6128 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.23% แตะที่ 1.0397 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0373 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.58% แตะที่ระดับ 0.8269 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8221 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ แข็งค่าขึ้นถ้วนหน้า ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่เดือนก.พ. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 131,000-135,000 ตำแหน่งโดยประมาณ
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ต.ค. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 363,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ สะท้อนว่าตลาดแรงงานเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพอันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสองสกุลเงินของประเทศที่มีรายได้หลักจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ยังได้รับแรงหนุนหลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดจะเปิดเผยในคืนนี้ 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอก ภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นราว 125,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนดังกล่าวจะอยู่ที่ 7.9%