ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: วิตกหนี้ยุโรป,ดอลล์แข็ง ฉุดทองปิดลบ 1 ดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 8, 2012 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,714 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1703.00 - 1733.00 ดอลลาร์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 31.661 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 37.3 เซนต์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1539.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 18.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 610.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.80 ดอลลาร์

ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า โอบามาอาจจะต้องต่อสู้อย่างมากในสภาคองเกรสเพื่อบรรลุข้อตกลงในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกสมัย ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า หากสหรัฐล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังและต้องมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ สหรัฐก็มีแนวโน้มจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในปีหน้า ทั้งนี้ ภาวะหน้าผาการคลังเกิดจากการใช้มาตรการขึ้นภาษีควบคู่ไปกับการลดงบประมาณรายได้ของสหรัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีหากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสสหรัฐไม่สามารถทำข้อตกลงกันได้

นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโรยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 80.764 จุดเมื่อวานนี้ จากวันอังคารที่ระดับ 80.606 จุด ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะจะทำให้มูลค่าของสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ