รมว.พลังงานสั่งทบทวนแผนรับซื้อไฟจากโซลาร์เซลล์ หวั่นค่าไฟพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 8, 2012 15:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ว่า ได้มีนโยบายให้ สนพ.ไปทบทวนแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ ตามเป้าหมายเดิมไม่เกิน 2,000 เมกะวัตต์ แต่หากสัญญาผูกพันและยกเลิกไม่ได้ก็ไม่ควรเกิน 3,000 เมกะวัตต์

เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ยื่นขายไฟจำนวนมาก ซึ่งหากรายใดไม่สามารถผลิตได้ และครบระยะเวลาการกำหนดจ่ายไฟแล้ว แต่ยังไม่สามารถจ่ายไฟได้ก็ให้ยกเลิกสัญญาทันที เนื่องจากการรับซื้อไฟจากเซลล์แสงอาทิตย์ต้องจ่ายส่วนต่างรับซื้อค่าไฟ หรือ ADDER เฉลี่ย 6-8 บาท/หน่วยทำให้ค่าไฟฟ้าค่อนข้างแพง

จากข้อมูลของ สนพ. ล่าสุดมีกำลังการผลิตติดตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 447.57 เมกะวัตต์ โดยเป็นการขายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 60 เมกะวัตต์ และรอการเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ 211.85 เมกะวัตต์ ขณะที่อยู่ระหว่างการพิจารณารับซื้อไฟฟ้า 175.72 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ ยังให้ สนพ.ไปเร่งงานวิจัยและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและพลังงานทดแทน โดยเฉพาะการผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าเลี้ยงช้าง เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคครัวเรือน รถยนต์ และไฟฟ้า และเพื่อนำมาลดต้นทุนด้านพลังงานของประเทศให้เสร็จ โดยให้เร่งศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.-ก.พ.56 จากกรอบเดิมจะเสร็จกลางปีหรือสิ้นปี ซึ่งอาจจะต้องเพิ่ม ADDER ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูกหญ้า เพื่อจูงใจให้เกิดการเพาะปลูกพืชพลังงานทดแทน เพราะขณะนี้ได้เพียง 30 สตางค์/หน่วยเท่านั้น

นายพงษ์ศักดิ์ ยังได้มอบหมายให้ พพ.เร่งศึกษาการตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมกับวัตถุดิบที่ชุมชนมีอยู่ตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนเพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ในอาคารและบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งทาง พพ.ได้รายงานว่าได้ผ่านกฎหมายส่งเสริมแล้วรอเพียงกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากจะต้องแก้ระเบียบว่าการติดตั้งในอาคารไม่เกี่ยวกับรง. 4 (ประกอบกิจการโรงงาน) ซึ่งจุดนี้จะเป็นประโยชน์กว่าการไปส่งเสริมโซลาร์ฟาร์ม

ด้านนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการ สนพ. กล่าวว่า สนพ. ได้นำเสนอผลการศึกษาการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) รวมถึงการศึกษาโครงการท่อส่งน้ำมัน จากโครงการสะพานเชื่อมเศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอ่าวไทย หรือ แลนด์บริดจ์ โดยในส่วนของ LPG ถือว่าเป็นเรื่องยากในการแบ่งกลุ่มคนมีรายได้น้อย และหาบแร่แผงลอย ที่จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งต้องใช้เวลาในการศึกษาพอสมควร

ทั้งนี้ สนพ. ยังคงติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาปรับลดลงอย่างมาก ก่อนที่จะมีการตัดสินใจว่าจะเสนอให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ