ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2713 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2745 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลง 0.53% สู่ระดับ 1.5896 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5980 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐบวก 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.480 เยน จากระดับ 79.450 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9483 ฟรังค์ จากระดับ 0.9455 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0388 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0401 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลบ 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8144 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8145 ดอลลาร์สหรัฐ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวในการแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า เขาเปิดกว้างต่อแนวคิดใหม่ๆเกี่ยวกับการแก้ไขป้ญหาหน้าผาทางการคลัง อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่าการปรับขึ้นภาษีสำหรับคนร่ำรวยต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดังกล่าว
นอกจากนี้ ปธน.โอบามายังระบุว่า จะเชิญบรรดาผู้นำจากทั้งสองพรรคในสภาคองเกรสมายังทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้า เพื่อเริ่มการหารือในการเลี่ยงการเผชิญภาวะหน้าผาทางการคลังด้วย
ข้อมูลควมเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐก็ช่วยหนุนดอลลาร์ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้พุ่งขึ้น 2.3 จุด แตะ 84.9 ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค.2550 จาก 82.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวสหรัฐก็ยังคงรู้สึกเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
ยูโรยังคงอ่อนค่า ขณะที่บรรดารัฐมนตรีคลังยุโรปอยู่ระหว่างรอผลการประเมินขั้นสุดท้ายจากสหภาพยุโรป (อียู), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับความคืบหน้าการปฏิรูปในกรีซ และเจ้าหน้าที่อียูรายหนึ่งกล่าวว่าอาจจะไม่มีการอนุมัติเงินช่วยเหลือสำหรับกรีซจนกว่าจะปลายเดือนพ.ย.