ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 270.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีลดลง 41.46 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 7,163.50 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับขึ้น 15.89 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 3,423.57 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,769.68 จุด ลดลง 6.37 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย.) ขณะที่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff โดยในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แตะระดับย่ำแย่ที่สุดนับแต่เดือนมิ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 4.07 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 12,815.39 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.34 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 1,379.85 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 9.29 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,904.87 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย.) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี และประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีแถลงการณ์ที่ให้คำมั่นในการเริ่มหารือเพื่อจัดการปัญหาหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) หลังได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดดีดตัวขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.15% แตะที่ 86.07 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในสัปดาห์นี้ได้ปรับตัวขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.40% หลังจากที่ปรับตัวติดลบในช่วง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 2.15 ดอลลาร์ หรือ 2% ที่ 109.40 ดอลลาร์/บาร์เรล และในสัปดาห์นี้ ได้ทะยานขึ้น 3.72 ดอลลาร์ หรือ 3.52%
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐ ซึ่งได้หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่ช่วงเทศกาลวันหยุดในอินเดียก็ช่วยหนุนอุปสงค์ด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดขยับขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ที่ 1,730.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนั้บแต่วันที่ 18 ต.ค. และปิดพุ่งขึ้น 3.3% ในสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 35.9 เซนต์ ที่ 32.599 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดดีดขึ้น 16.90 ดอลลาร์ ที่ 1,559.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 3.30 ดอลลาร์ ที่ 611.05 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย.) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ขณะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2713 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2745 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลง 0.53% สู่ระดับ 1.5896 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5980 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐบวก 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.480 เยน จากระดับ 79.450 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9483 ฟรังค์ จากระดับ 0.9455 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0388 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0401 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลบ 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8144 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8145 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ หลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐผ่านพ้นไป
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 6.37 จุด หรือ 0.11% ที่ 5,769.68 จุด