"หม่อมอุ๋ย"ห่วงหนี้สาธารณะปี 62 พุ่งเกินกว่า 60% ของ GDP จากจำนำข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 12, 2012 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แสดงความเป็นห่วงแนวโน้มตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศที่จะเพิ่มสูงขึ้นหากรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวโดยไม่ฟังคำทัดทานหรือเสียงทักท้วงจากรอบด้าน เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลว่าโครงการรับจำนำข้าวนาปีสิ้นสุด ก.พ.55 และได้ปิดบัญชีไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.55 นั้น รัฐบาลรับจำนำข้าวได้ 6.95 ล้านตัน มีผลการขาดทุน 3.2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ หากรวมกับโครงการรับจำนำข้าวนาปรังอีก 14.6 ล้านตันแล้ว ยอดขาดทุนน่าจะพุ่งสูงมากขึ้นกว่านี้ ดังนั้นจึงมีความน่าเป็นห่วง โดยคาดว่าหากปี 56 ที่รัฐบาลประกาศจะรับจำนำข้าวอีก 33 ล้านตัน จะทำให้ตัวเลขขาดทุนสูงถึง 2.1 แสนล้านบาท

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร มองว่า ตัวเลขการรับจำนำข้าว 6.95 ล้านตันดังกล่าว จะทำให้ยอดหนี้สาธารณะขณะนี้อยู่ที่ 42.5% ของจีดีพี และหากรวมกับหนี้ทุกประเภทที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าอยู่ทุกโครงการ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท, กองทุนประกันภัยพิบัติอีก 5 หมื่นล้านบาท ตลอดจนโครงการอื่นๆ อีก จึงเชื่อว่าเมื่อถึงปี 62 หนี้สาธารณะของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 61% ของจีดีพี ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขหนี้สาธารณะของยุโรปที่พบว่าแต่ละประเทศมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ระดับ 70%

"ผมต้องพูด เพราะเป็นห่วงตัวเลขเหล่านี้มีการคำนวณอย่างถูกต้องแล้ว ถ้าเราไม่แคร์ว่าทำโครงการแล้วมีปัญหาขาดทุน ปล่อยให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงมาก ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นปัญหาแน่นอน และอาจกระทบต่อค่าเงินบาท เพราะนอกจากโครงการรับจำนำข้าวแล้ว รัฐบาลยังมีอีกหลายโครงการที่เป็นการเพิ่มภาระหนี้...ถ้าไม่ชุ่ยกันเกินไป น่าจะหาทางออกกัน ถ้าคิดได้ ปัญญาก็จะเกิดเอง เพราะเกือบทุกโครงการ กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามาดู" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ