ทั้งนี้ หากรวมกับโครงการรับจำนำข้าวนาปรังอีก 14.6 ล้านตันแล้ว ยอดขาดทุนน่าจะพุ่งสูงมากขึ้นกว่านี้ ดังนั้นจึงมีความน่าเป็นห่วง โดยคาดว่าหากปี 56 ที่รัฐบาลประกาศจะรับจำนำข้าวอีก 33 ล้านตัน จะทำให้ตัวเลขขาดทุนสูงถึง 2.1 แสนล้านบาท
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร มองว่า ตัวเลขการรับจำนำข้าว 6.95 ล้านตันดังกล่าว จะทำให้ยอดหนี้สาธารณะขณะนี้อยู่ที่ 42.5% ของจีดีพี และหากรวมกับหนี้ทุกประเภทที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าอยู่ทุกโครงการ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท, กองทุนประกันภัยพิบัติอีก 5 หมื่นล้านบาท ตลอดจนโครงการอื่นๆ อีก จึงเชื่อว่าเมื่อถึงปี 62 หนี้สาธารณะของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 61% ของจีดีพี ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขหนี้สาธารณะของยุโรปที่พบว่าแต่ละประเทศมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ระดับ 70%
"ผมต้องพูด เพราะเป็นห่วงตัวเลขเหล่านี้มีการคำนวณอย่างถูกต้องแล้ว ถ้าเราไม่แคร์ว่าทำโครงการแล้วมีปัญหาขาดทุน ปล่อยให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงมาก ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นปัญหาแน่นอน และอาจกระทบต่อค่าเงินบาท เพราะนอกจากโครงการรับจำนำข้าวแล้ว รัฐบาลยังมีอีกหลายโครงการที่เป็นการเพิ่มภาระหนี้...ถ้าไม่ชุ่ยกันเกินไป น่าจะหาทางออกกัน ถ้าคิดได้ ปัญญาก็จะเกิดเอง เพราะเกือบทุกโครงการ กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามาดู" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว