ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.3% แตะที่ 1.2703 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2707 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.04% แตะที่ 1.5868 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5874 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.390 เยน จากระดับ 79.480 เยน และอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9479 ฟรังค์ จากระดับ 0.9486 ฟรังค์
สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากมีรายงานว่าตัวเลขหนี้สาธารณะของอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.995 ล้านล้านยูโร (2.536 ล้านล้านดอลลาร์) ในเดือนก.ย. จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 1.95 หมื่นล้านยูโร แม้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ จะปรับขึ้นอัตราภาษีและลดสวัสดิการสังคมลงหลายครั้งแล้วก็ตาม
ขณะที่ ZEW Center เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับติดลบ 15.7 จากระดับติดลบ 11.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนกำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี
นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรกรุ๊ปตัดสินใจให้เวลากรีซ 2 ปีในการปรับลดงบประมาณ พร้อมกับเลื่อนการตัดสินใจเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซเพิ่มเติมอีก 3.26 หมื่นล้านยูโรออกไปเป็นสัปดาห์หน้า
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 14.45 น.ตามเวลาไทย ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดัชนี CPI เดือนต.ค. จากนั้นในเวลา 16.30 น.ตามเวลาไทย อังกฤษจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. และในเวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย สหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผยผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ย.