อย่างไรก็ตาม ธปท. ยังจับตาปัจจัยด้านเงินทุนไหลเข้าที่อาจกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้จะยังไม่มีพบการซื้อขายเพื่อการเก็งกำไรแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังได้ออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ปล่อยสินเชื่อในบ้านแนวสูงที่มีคุณภาพ และในปีหน้าจะออกมาตรการนี้กับบ้านแนวราบด้วย
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่า แนวโน้มสินเชื่อในอีก 2 เดือนที่เหลือของปีนี้จะคึกคัก จากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เริ่มโอนบ้านในช่วงนี้กันมาก รวมทั้งมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ มาตรการบ้านหลังแรก มาตรการดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ที่ทำให้ความต้องการขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโต 9.5% จากที่คาดการณ์ไว้เพียง 7% จากภาวะฟื้นตัวจากน้ำท่วม
ทั้งนี้ ธนาคารเองไม่มีความกังวลในมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์แนวราบของ ธปท.ที่จะเริ่มขึ้นในปีหน้า เนื่องจากตลาดได้รับรู้ถึงมาตรการนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และมีการปรับตัวรับมือไว้บางส่วน โดยคาดว่าในปีหน้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโตได้ประมาณ 5-10%
นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้กลุ่มบ้านแนวสูงจะได้รับความนิยมมาก เนื่องจากความกังวลจากน้ำท่วม แต่ในปีหน้าสัดส่วนความต้องการบ้านแนวราบและแนวดิ่งจะอยู่ใกล้เคียงกันที่ระดับ 40:60 เนื่องจากปัจจัยส่งเสริมจากการพัฒนาการขนส่งระบบรางของรัฐบาล ที่ทำให้ความต้องการบ้านในพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
แนวโน้มราคาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความกังวลในภาวะฟองสบู่นั้น นายอิสระ มองว่าตอนนี้ไม่มีสัญญาณดังกล่าว โดยเฉพาะในแนวราบ เนื่องจากการปรับราคามาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ปัจจัยแรงงานขาดแคลน ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าบริหารจัดการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้และปีหน้าราคาบ้านจะปรับเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะราคาบ้านราคาต่ำที่ประมาณ 1 ล้านบาทในปีหน้าอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.2-1.5 ล้านบาทได้
อย่างไรก็ตาม มองว่าภาวะฟองสบู่ที่คนส่วนใหญ่กังวลอาจเป็นเพียง Oversupply เท่านั้น ซึ่งในระยะยาวราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นจะปรับตัวลดลงได้