ปตท.ยันพายุในอ่าวไทยไม่กระทบการผลิต-ขนส่งก๊าซ มั่นใจแท่นขุดเจาะแข็งแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 15, 2012 14:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์การก่อตัวของพายุในอ่าวไทยอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าพายุจะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่นและขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนใต้ หรือเข้าทาง จ.เพชรบุรี ทำให้สถานการณ์ในอ่าวไทยไม่เลวร้าย แต่หากมีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่น ปตท.จะสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ประจำแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติออกจากอ่าวไทยขึ้นฝั่งทั้งหมดทันที

โดยยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการผลิตก๊าซฯ ในอ่าวไทยแต่อย่างใด เนื่องจากแท่นขุดเจาะสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคนควบคุม อีกยังทั้งมีความแข็งแรงรับมือกับพายุได้ รวมทั้งจะไม่กระทบต่อการขนส่งก๊าซฯ ด้วยเพราะเป็นการจัดส่งทางท่อ

ทั้งนี้ ปตท.มีกำลังการผลิตก๊าซจากฝั่งอ่าวไทย 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คิดเป็นปริมาณการผลิต 3 ใน 4 ของประเทศ

นายไพรินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้าว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ โดยน้ำมันดิบดูไบและเบรนท์จะอยู่ในกรอบ 100-110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยต้องจับตาการเปลี่ยนผ่านอำนาจของประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ว่าจะดำเนินนโยบายแก้ไขเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ เพราะจะมีผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต

นายไพรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เตรียมเจรจาขอจัดเก็บค่าเช่าที่ดินของรฟท.ที่ ปตท.เข้าไปใช้ประโยชน์ซึ่งจะหมดสัญญาในช่วงต้นปี 56 ว่า ปตท.พร้อมเจรจากับ รฟท.ในการจัดเก็บค่าเช่าที่ดิน แต่จะมีการจัดเก็บในรูปแบบใดคงจะต้องพิจารณาตามเงื่อนไข รวมถึงแนวทางที่ รฟท.เสนอให้หักกลบหนี้ค้างชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ รฟท.ต้องจ่ายให้ ปตท.กว่า 1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าที่ผ่านมา ปตท.ได้ชำระค่าเช่าเป็นเงินก้อนตามสัญญาเสมือนขายที่ดินให้ รฟท.ไปแล้ว และมีแนวคิดที่จะจัดหาที่ดินเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่ม ปตท.ในอนาคต แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ