ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ย.ของยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้น เพราะแม้ยอดส่งออกจะลดลง แต่ยอดนำเข้าร่วงลงมากกว่า โดยในเดือนก.ย.การส่งออกที่ปรับตามฤดูกาลแล้วลดลง 1.1% ส่วนการนำเข้าร่วงลง 2.7% จากเดือนส.ค.
ทั้งนี้ การส่งออกถือเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยูโรโซน อย่างไรก็ตาม วิกฤตหนี้สาธารณะได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกในภูมิภาค และฉุดให้เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี
การส่งออกของเยอรมนี ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป ร่วงลง 1.5% ในเดือนก.ย. ขณะที่การนำเข้าร่วง 2.5% ขณะที่อิตาลีและสเปน ซึ่งกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจและการเงินขั้นรุนแรง เผยยอดส่งออกลดลง 0.8% และ 1.2% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกของฝรั่งเศส ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.ย.
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนปรับตัวลง 0.1% ในไตรมาส 3 หลังจากที่ปรับตัวลง 0.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขจีดีพีที่หดตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกันหมายความว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอย
ในส่วนของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศนั้น ยูโรสแตทเผยในรายงานวันนี้ว่า อียูมียอดขาดดุลการค้า 1.26 หมื่นล้านยูโร (1.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนก.ย.2555 เทียบกับที่ขาดดุล 1.09 หมื่นล้านยูโร (1.38 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขาดดุล 1.32 หมื่นล้านยูโร (1.68 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนส.ค.2555
การส่งออกและการนำเข้าของอียูเพิ่มขึ้น 1.5% และ 1.7% ตามลำดับในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.