ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ คาดยูโรโซนไฟเขียวเงินกู้กรีซ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 20, 2012 07:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสกุลเงินยูโร หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยบวกจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสหรัฐจะสามารถแก้ไขวิกฤตการคลังภายในประเทศได้

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.57% แตะที่ 1.2814 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2742 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.16% แตะที่ 1.5909 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5883 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.340 เยน จากระดับ 81.260 เยน และพุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9399 ฟรังค์ จากระดับ 0.9450 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.71% แตะที่ 1.0414 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0341 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.91% แตะที่ระดับ 0.8197 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8123 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อเงินยูโร หลังจากมีการคาดการณ์ว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนอาจจะอนุมัติเงินกู้งวดใหม่มูลค่า 4.4 หมื่นล้านยูโรให้กับกรีซในวันนี้ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เงินดังกล่าวจะจ่ายให้ในวันที่ 5 ธ.ค. หากกรีซยอมทำตามเงื่อนไขทั้งหมดของยูโรโซน

นอกจากนี้ เงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาพคองเกรส เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หรือภาวะที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติตามกำหนดในช่วงปลายปีนี้

ก่อนที่จะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ประธานาธิบดีโอบามาได้เข้าประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือวิธีแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลัง ด้านนายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกพรรครีพับลิกันเชื่อว่าการทำงานร่วมกันระหว่างสองพรรคสามารถช่วยหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์สวิส หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 4.79 ล้านยูนิตต่อปี ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากตลาดแรงงานที่ส่งสัญญาการฟื้นตัวได้ช่วยหนุนตลาดที่อยู่อาศัยให้คึกคักขึ้น

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาต ก่อสร้างเดือนต.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 0.840 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. ลดลงจาก 0.872 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ