ยูเอสเอ ทูเดย์/แกลลัพ ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นในช่วงวันที่ 9-12 พ.ย. พบว่าชาวอเมริกัน 65% เชื่อมั่นว่า หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ปธน.โอบามาจะดำเนิน “ความพยายามอย่างจริงใจ" เพื่อทำงานร่วมกับรีพับลิกันในสภาคองเกรส ในการหาทางออกที่สามารถยอมรับได้ของทั้งสองพรรค
ผลสำรวจดังกล่าวคล้ายคลึงกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ในเดือนพ.ย.2553 ซึ่งปธน.โอบามาดำรงตำแหน่งในสมัยแรกมาได้ 2 ปี และหลังจากพรรครีพับลิกันได้กลับมาครองอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐในการเลือกตั้งกลางเทอม อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่น ซึ่งเคยแตะระดับ 80% ในปี 2552 ด้วยความคาดหวังสูงต่อปธน.โอบามานั้น ได้ลดลง อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคการเมืองในสภาคองเกรส
ผลสำรวจล่าสุดระบุว่า ความเชื่อมั่นใน 2 พรรคในสภาครองเกรสได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2553 โดยชาวอเมริกัน 57% คาดว่าพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสจะทำงานร่วมกับคณะผู้นำของพรรครีพับลิกันได้ ขณะที่ 48% เชื่อว่าพรรครีพับลิกันจะทำงานร่วมกับเดโมแครตในสภาคองเกรสได้
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า โดยรวมแล้วชาวอเมริกัน 2 ใน 3 ระบุว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศก็คือการที่ทั้ง 2 พรรคประนีประนอมกันในการเจราในปัจจุบันเพื่อเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ซึ่งมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า หากไม่มีการดำเนินการในสภาคองเกรส สำนักข่าวซินหัวรายงาน