"โอกาสอยู่ตรงไหนต้องวิ่งไปหา ส่วนภัยอยู่ตรงไหนเราต้องวิ่งออกมา เนื่องด้วยปัญหาเศรษฐกิจทางฝั่งตะวันตกมีมาก แต่ทางฝั่งตะวันออกมีกำลังการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า เลี่ยงปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเลี่ยงจากตะวันตกมาลงทุนในตะวันออกให้มากขึ้น" นายณรงค์ชัย กล่าวในงานสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 56 ในหัวข้อ"กลยุทธ์ธุรกิจไทยฝ่าภัยเศรษฐกิจโลก"
พร้อมเห็นว่า รัฐบาลควรหันมาส่งเสริมด้านการลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศให้มากขึ้น รวมทั้งติดตามการรักษาเสถียรภาพทางการเงินอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ดี รัฐบาลจะต้องบริหารความสัมพันธ์กับประเทศทั้งในฝั่งตะวันตกและตะวันออกไว้ให้ดีด้วย
ด้านม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ในขณะนี้ภัยจากเศรษฐกิจโลกมาจากทั้งฝั่งของสหรัฐฯ และฝั่งยุโรปที่ยังมีปัญหาหนี้สาธารณะ รวมทั้งประเทศจีนที่ยังมีปัญหาภายในอยู่มาก สิ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบตามมา คือ เงินยูโรอ่อนค่าลง อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง และทำให้ไทยต้องหันกลับมาคิดว่าจะฝ่าภัยนี้ไปได้อย่างไร
อย่างไรก็ดี มองว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงในการปรับตัวต่อภัยเศรษฐกิจโลก ในขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่งฟื้นตัวได้แค่ครึ่งทาง ซึ่งสิ่งที่ไทยต้องดำเนินการ คือการกระจายตลาดออกไปให้มากขึ้น เนื่องจากไทยต้องพึ่งพาตลาดใหม่ๆ อีกมากเพื่อทำให้เกิดการส่งออกที่มากขึ้นกว่าเดิม และทำให้เงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญกว่าการปรับตัวต่อวิกฤติเศรษฐกิจโลก คือ การเพิ่มขึ้นของการค้าและการลงทุนในปี 2015 จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งต้องกลับมาดูว่าต้องทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าขาย และเพิ่มช่องทางการลงทุนโดยสร้างท่าเรือเพิ่มขึ้นทางฝั่งตะวันตก