ไทย-จีน เซ็น MOU ซื้อขายข้าวจีทูจี, ชวนลงทุนไฮสปีด-ทวาย-ระบบน้ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 21, 2012 13:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวร่วมกับนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีนถึงผลการหารือระดับทวิภาคีว่า วันนี้รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการซื้อขายข้าวระหว่างกัน รวมถึงเอกชนของทั้งสองประเทศก็ได้ลงนามการซื้อขายข้าวไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.)

พร้อมกันนี้ ทางรัฐบาลไทยได้เชิญชวนนักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ(โครงการทวาย) โครงการรถไฟความเร็วสูง หรือโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมในประเทศไทย ซึ่งนากยรัฐมนตรีจีนได้แจ้งว่าทางจีนมีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการเหล่านี้อยู่แล้ว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะพัฒนาความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน โดยเห็นว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่ควรจะร่วมมือกัน เป็นต้นว่าสินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งไทยอยากให้รัฐบาลจีนช่วยดูแลแก้ไขข้อติดขัดทางการค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น

นอกจากนั้น ไทยยังได้แสดงความสนใจที่จะส่งออกเอทานอลไปยังจีนด้วย ในเรื่องนี้ ฝ่ายจีนได้กรุณาเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ครั้งที่ 3 ด้วย

สำหรับด้านการลงทุน ประเทศไทยอยากเชิญชวนให้ชาวจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จะให้เพิ่มการลงทุน 15% ต่อปี ซึ่งสาขาการลงทุนที่ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ อาทิ การแปรรูปยางธรรมชาติ พลาสติกชีวภาพ ยานยนต์ เป็นต้น รวมทั้งได้เชิญชวนให้จีนเข้ามาร่วมในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในการเชื่อมโยงภูมิภาค เช่น โครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือระบบป้องกันน้ำท่วมในไทย

และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยยังได้ฝากรัฐบาลจีนช่วยดูแลนักลงทุนไทยในประเทศจีนด้วย รวมทั้งฝากแสดงความยินดีไปยังรองประธานาธิบดีจีนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนคนใหม่ และหวังว่าผู้นำรุ่นใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีส่วนช่วยสร้างสรรค์ความเจริญทางด้านต่างๆในเวทีโลกต่อไป

ด้านนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวชื่นชมไทยที่ประสบความสำเร็จในการรับมือความท้าทายที่รุนแรง ทั้งการแก้ปัญหาอุทกภัย วิกฤติเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของไทยถือเป็นกลไกลที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้ดียิ่งขึ้น โดยจีนยืนยันว่าจะร่วมมือกับไทยรวมถึงการสนับสนุนช่วยเหลือในให้การพัฒนาร่วมกันทั้งในระดับระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะความร่วมมือของจีนกับภูมิภาคอาเซียน

อย่างไรก็ดีจีนและไทย ถือเป็นหุ้นส่วนคู่ค้าที่สำคัญ และพร้อมที่จะร่วมมือกันต่อไป โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของไทยทั้งด้านการคมนาคม ชลประทาน การเกษตร การลงทุน และความร่วมมือในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง

ในวันนี้ รัฐบาลไทยและจีนได้ลงนามบันทึกความตกลงร่วมกัน 4 ฉบับ ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการกระชับความร่วมมือ, การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษคำพิพากษา, ความความร่วมมือด้านการศึกษา และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวสองฝ่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ