โดยการลงนามในวันนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นการลงนามของภาครัฐ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงพาณิชย์จีน โดยเนื้อหาสาระหลักของบันทึกความเข้าใจฯ รัฐบาลของ 2 ประเทศจะส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนทุกรูปแบบในการผลักดันการค้าข้าวและความร่วมมือการค้าข้าวให้เพิ่มมากขึ้น โดยฝ่ายจีนจะพยายามนำเข้าข้าวจากไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การค้าข้าวของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อตลาดการค้าข้าวในอนาคต
ส่วนที่ 2 เป็นการลงนามของภาคเอกชนระหว่างรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนจีนกับบริษัทผู้ส่งออกข้าวไทย โดยฝ่ายจีนจะนำเข้าข้าวจากฝ่ายไทยประกอบด้วย 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย, ข้าวขาว และข้าวเหนียว รวมปริมาณ 300,000 ตัน ในราคาตันละ 800 เหรียญสหรัฐฯ มูลค่ารวม 240 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่า 7,200 ล้านบาท
ซึ่งข้าวที่จีนนำเข้าดังกล่าวเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึง นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยังแสดงความต้องการที่จะนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้าที่คาดว่าจะมีปริมาณนำเข้าจากต่างประเทศสูงถึงปริมาณ 1.5 ล้านตัน
รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยเป็นแหล่งนำเข้าข้าวที่สำคัญอันดับ 1 ของจีน โดยครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในจีนกว่าร้อยละ 50 ซึ่งข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยเป็นที่นิยมและชื่นชอบเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน
ทั้งนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจของทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ประเทศในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวไม่เฉพาะจะเป็นการย้ำความสัมพันธ์ด้านการค้าข้าวระหว่าง 2 ประเทศที่มีมายาวนานให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นแล้วถือว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาไปสู่กลไกความร่วมมือข้าวในด้านอื่นๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี