ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 312,153 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 145,199 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.0 ซึ่งเป็นผลจากการที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณก่อนมีผลบังคับใช้ล่าช้า ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งดำเนินนโยบายทางการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 162,106 ล้านบาท
เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 100,760 ล้านบาท (สาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท) ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 262,866 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล โดยใช้เงินคงคลังที่มีอยู่ในระดับสูงไปพลางก่อน ทำให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนต.ค.55 มีจำนวน 297,471 ล้านบาท ถือว่ายังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
"สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่ปีงบประมาณ 56 รัฐบาลจะยังคงรักษาบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจัดทำงบประมาณขาดดุล และการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งจะเป็นการส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ควบคู่ไปกับการรักษาฐานะการคลังของรัฐบาลให้อยู่ในระดับที่เข้มแข็งได้อย่างต่อเนื่อง" นายสมชัย กล่าว