จากการสำรวจ พบว่า ข้าว มีพื้นที่ปลูก 45,280 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว 43,510 ส่วนอ้อยโรงงาน มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 39,640 ไร่ สับปะรดโรงงาน มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 258,430 ไร่ ปาล์มน้ำมัน มีพื้นที่ให้ผล 207,880 ไร่ และยางพารา มีพื้นที่กรีดได้ 71,250 ไร่
นายสมาตร กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์โดยรวมของปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย อาจส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด ที่จ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลักได้งดการจ่ายน้ำเพื่อการเกษตร ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชในช่วงหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทานได้
จึงขอฝากเตือนเกษตรกรที่กำลังปลูกพืชในช่วงหน้าแล้งนี้ เตรียมพร้อมในการรับมือกับภาวะภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบได้ โดยเฉพาะเกษตรกรพื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยหากได้รับผลกระทบความเสียหาย สามารถแจ้งไปยังผู้นำชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พร้อมที่จะติดตามสถานการณ์เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรไว้แล้ว