ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 72,211 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 263.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 70,628 คัน เพิ่มขึ้น 206.8% เป็นจำนวนยอดขายต่อเดือนสูงสุดเป็นสถิติใหม่ของทั้ง 3 ตลาด เป็นผลจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งนโยบายของภาครัฐ ประกอบกับค่ายรถยนต์แต่ละค่ายสามารถปรับกำลังการผลิตได้เต็มที่
ขณะที่ตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 1,143,416 คัน เพิ่มขึ้น 60.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 58.2% ความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับทุกค่ายรถยนต์สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ปีนี้สร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายวุฒิกร กล่าวถึงตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากยอดค้างจองสะสมทั้งรถยนต์รุ่นยอดนิยม และรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ในขณะที่กำลังการผลิตของแต่ละค่ายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลให้สามารถ ส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเร่งใช้สิทธิรถยนต์คันแรกให้ทันภายในปีนี้ รวมทั้งการเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร และฤดูการขายรถยนต์จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้