โอบามากล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ทุกครอบครัวในสหรัฐจะได้ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2,000 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย หากสหรัฐเผชิญ "หน้าผาการคลัง" และหากสหรัฐไม่ได้แก้ไขปัญหาด้านการคลัง ภาคธุรกิจภายในประเทศก็มีแนวโนเที่จะลดการลงทุนและจ้างงาน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐเรียกร้องให้ชาวอเมริกันร่วมกันกดดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก ให้เร่งทำข้อตกลงเรื่องอัตราภาษีและการปรับลดหนี้สินให้ทันเวลา
"เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหลายล้านครอบครัวทั่วประเทศ" โอบามาย้ำ
ทั้งนี้ สหรัฐจะเผชิญกับมาตรการปรับขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า นอกเสียจากว่าสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยที่ผ่านมานั้น พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการลดหนี้สาธารณะซึ่งอยู่ที่ราว 16.2 ล้านล้านดอลลาร์ และภาวะหน้าผาการคลัง
โอบามาอ้างถึงการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายคนว่า หากมีการปรับขึ้นภาษีชนชั้นกลางในปี 2556 กลุ่มผู้บริโภคของสหรัฐก็จะใช้จ่ายน้อยลงราว 2 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงการคลังสหรัฐว่าว่า นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังมีกำหนดจะประชุมร่วมกับผู้นำสมาชิกสภานิติบัญญัติในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางคลี่คลายอุปสรรคด้านการคลังที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่