โดยปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ 5 ราย ได้แก่ มิตซูบิชิ, วอลโว่, เชฟโรเลต และล่าสุดฮอนด้าและโตโยต้า ได้ผลิตออกมาจำหน่ายเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เก่าที่ติดตั้งอุปกรณ์ปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้ใช้ E85 ได้หรือ Convertion kit ทำให้โดยรวมแล้วคาดว่าจะมีรถยนต์ใช้ E85 ได้หลายแสนคัน
ดังนั้น บางจากฯ จึงเตรียมแผนจะขยายสถานีบริการน้ำมัน E85 เพิ่มขึ้นในปีหน้าให้ได้ 100 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 50 แห่ง โดยจะขยายสาขาไปในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยน้ำมัน E85 ของไทยมีคุณภาพเท่ากับที่จำหน่ายในยุโรปและสหรัฐฯ และค่าออกเทนสูงกว่าระดับ 100 ทำให้เครื่องยนต์สะอาด เผาไหม้สมบูรณ์ โดยน้ำมันในทุกลิตรสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 850 กรัม
อย่างไรก็ตาม การลงทุนหัวจ่าย E85 ต่อแห่งต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และปีหน้าคาดจะมีเงินลงทุนในส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบางจากฯ ยังจัดกิจกรรมการขาย "ส่งความสุขเต็มถังลุ้นเติมน้ำมันฟรี 1,000 คัน" โดยผู้สนใจสามารถสแกน QR Code บนโปสเตอร์ที่ติดอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน E85 แล้วส่ง SMS ลงทะเบียนรับสิทธิ์เติม E85 เต็มถังฟรี ตั้งแต่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค.55
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า ราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอลล์มีแนวโน้มปรับลดลง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง โดยค่าการตลาดขณะนี้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1.80 บาท/ลิตร ส่วนการที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายปรับสูตรเอทานอลโดยให้มีการผลิตจากกากน้ำตาลหรือโมลาส ร้อยละ 62 และผลิตจากมันสำปะหลังร้อยละ 38 นับเป็นเรื่องที่ดีจะช่วยส่งเสริมเกษตรผู้ปลูกมัน ทั้งนี้อาจมีผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 20-30 สตางค์/ลิตร แต่ผู้ค้าน้ำมันจะปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงน้ำมันขาลงจึงทำให้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านตัน/ปี