ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวได้แบ่งการใช้จ่ายเงินเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การเสนอโครงการจากภาคประชาชน และการเสนอแผนงานโดยกรรมการบริหารกองทุน โดยการพิจารณาอนุมัติโครงการจะพิจารณาจากคุณสมบัติและรายละเอียดโครงการที่ขอรับการสนับสนุน ผ่านดุลยพินิจของคณะกรรมการกองทุนฯ และ กสทช.
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การใช้เงินในกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ นั้นถือเป็นเงินที่ใช้สำหรับหลายภาคส่วนด้วยกัน ทำให้วงเงินที่นำมาใช้ด้านผู้บริโภคมีจำนวนจำกัด ฉะนั้นการกำหนดเป้าหมายการใช้เงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และต้องให้ทันเห็นผลในเร็วๆ นี้
เงินก้อนดังกล่าวผู้ที่ได้รับไปต้องให้เป็นเพียงส่วนเสริมริเริ่มเท่านั้น เนื่องจากเงินที่ได้รับจะไม่ใช่ในลักษณะผูกขาดจึงต้องมีการนำไปใช้ต่อยอดด้วยตนเอง ซึ่งการจะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้บริโภคนั้นผู้บริโภคต้องมีการรวมตัวกัน เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการมีกำลังมาก เพราะผู้ประกอบการมีข่าวสารและอำนาจเงินใช้ฟ้องคดี แต่หากผู้บริโภคมีศักยภาพด้านความรู้รวมเป็นกลุ่ม จะทำให้กลุ่มผู้บริโภคมีความแข็งแกร่งขึ้นในการต่อรองกับผู้ประกอบการ
รายงานข่าวระบุว่า กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ของ กสทช.มีเงินในกองทุนฯ รวมทั้งสิ้น 3,100 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวจะเป็นกองทุนที่ได้รับเงินจากค่าธรรมเนียมรายปีและค่าปรับต่างๆ ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม