ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 276.31 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2543
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3568.88 จุด บวก 53.69 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7400.96 จุด บวก 57.55 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5870.30 จุด บวก 67.02 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลง และจีดีพีที่ยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 36.71 จุดหรือ 0.28% ปิดที่ 13,021.82 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 1,415.95 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 20.25 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 3,012.03 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) ขานรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาดสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ที่ไม่สงบในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนม.ค.ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 88.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.55-88.69 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 110.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 109.45-111.30 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เพระได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนด้านการคลังของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,727.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 34.348 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 66.40 ดอลลาร์ และสัญญาทองแดงสงมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.8 เซนต์ ปิดที่ 3.6055 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,619.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 685.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรขยับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ได้อ่อนแรงลงจากกระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนในระหว่างวัน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้แสดงมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหน้าผาการคลัง ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.19% แตะที่ 1.2975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2951 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดขึ้น 0.17% แตะที่ 1.6040 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6012 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.070 เยน จากระดับของวันพุธที่ 82.050 เยน และขยับลง 0.17% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9276 ฟรังค์ จากระดับ 0.9292 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.39% แตะที่ 1.0434 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0475 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.11% แตะที่ 0.8226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8235 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) จากการพุ่งขึ้นของหุ้นริโอทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมือรายใหญ่ หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดต้นทุน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญภาวะหน้าผาการคลัง ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 67.02 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 5,870.30 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,803.28-5,883.98 จุด