โดยจะมีมาตรการใน 3 ระยะ คือ เมื่อพบการกระทำผิดครั้งแรก ปรับ 5,000 บาท ทำผิดครั้งที่ 2 ปรับ 5,000 บาทพร้อมพักใช้รถ 15 วัน และเมื่อกระทำผิดครั้งที่ 3 จะปรับ 5,000 บาท พร้อมยึดใบอนุญาตประกอบการ โดยให้มีผลทันที
ทั้งนี้ ปัจจุบันมียอดจำนวนรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก 10,623 คัน แบ่งเป็นรถร่วม บขส. 5,370 คัน และรถร่วม ขสมก. 5,253 คัน และในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.- พ.ย.55) พบว่ามีการจับปรับรถตู้สาธารณะที่มีการแก้ไขเพื่อเพิ่มเบาะที่นั่งในการบรรทุกเกินรวมแล้ว 174 คัน และมีการบรรทุกผุ้โดยสารเกิน 25 คัน ในส่วนนี้ได้ดำเนินการเอาผิดลงโทษปรับคันละ 2,000 บาทแล้ว ส่วนการบรรทุกเกินอยู่ที่ประมาณ 17-20 คนต่อเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุจะทำให้เกิดความเสียหายมาก
อย่างไรก็ดี มั่นใจว่ามาตรการคุมเข้มปรับและเพิกถอนใบอนุญาตจะทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าฝ่าฝืน เช่นเดียวกับการใช้ระบบ RFDI ในการตรวจจับความเร็วรถตู้สาธารณะ ทำให้สถิติการกระทำผิดลดลง และหากผู้ประกอบการปรับขึ้นค่าโดยสารโดยอ้างมาตรการดังกล่าวจะต้องมีความผิดเพิ่มอีก 1 กระทงด้วย