"สิ่งสำคัญในขณะนี้ต้องมีการจัดทำ MasterPlan ให้แล้วเสร็จ เพราะการช่วยเหลือพม่าของไทยจะเน้นด้านเทคนิคเป็นหลัก และเชื่อว่าหากมี Masterplan ชัดเจน จะเป็นสิ่งจูงใจให้นักลงทุนจากทั่วโลกสนใจมาลงทุนในโครงการทวาย"นายชัชชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ คณะอนุกรรมการในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายทั้ง 6 ชุดจะเดินทางไปหารือกับพม่า โดยที่ประชุมวันนี้มีแนวคิดในการเตรียมนำข้อเสนอเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยใช้กับโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดไปให้คำแนะนำกับพม่า เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ซึ่งในส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะเป็นลักษณะการเช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
นอกจากนี้ จะเสนอแนวทางให้รัฐวิสาหกิจเข้าไปลงทุนจะเป็นลักษณะ B2B (Business to Business) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องการตัดสินใจทางธุรกิจของแต่ละบริษัท สามารถไปแข่งขันกับนานาประเทศได้
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ไปพิจารณากฎระเบียบด้านภาษีต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อนจบไตรมาสแรกปี 56 เพื่อจะได้มีความชัดเจนที่จะไปพูดคุยกับทางพม่า รวมถึงสิทธิในที่ดิน วีซ่า หรือการเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ามาลงทุนในโครงการเกี่ยวเนื่อง โดยยึกแนวทางในการลดความเสี่ยงเพื่อจูงใจให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในโครงการทวาย