"เนื่องจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทตามกฎหมายฉบับเดิมไม่เหมาะสม หากเกิดกรณีบริษัทล้มละลายหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว กองทุนฯ จะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหนี้ได้เมื่อผ่านกระบวนการตามกฎหมายล้มละลายเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้กองทุนฯ ไม่สามารถคุ้มครองเจ้าหนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับการชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันได้อย่างทันท่วงที" นพ.ทศพร กล่าว
โดยกฎหมายฉบับใหม่จะมีการปรับปรุงโครงสร้างผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจประกัน และกำหนดให้กองทุนฯ ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับการชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันแทนบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต, แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์และการใช้จ่ายเงินของกองทุนให้เหมาะสม, ให้กองทุนฯ มีอำนาจในการกู้ยืมเงินและออกตราสารทางการเงินอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ กำหนด, เพิ่มบทลงโทษกรรมการบริษัทที่ไม่ได้ส่งมอบบัญชีและเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขถ้อยคำจาก "... รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ..." เป็น "... รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ..." ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลังจากนั้นให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป