นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติกรอบการเจรจาการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) ไทย-อียูว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไว้อย่างชัดเจนว่าในการเจรจาจะต้องต่อรองไม่ให้เสียผลประโยชน์ของประเทศ เพราะฉะนั้นในหลายประเด็นที่หลายฝ่ายวิตก ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรยาหรือการเข้าถึงยานั้น ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังดำเนินการกำหนดกรอบให้ชัดเจนอยู่
"ในหลักการจะไม่เสียสิทธิเดิมที่เรามีอยู่ และสมมุติว่าหากเจรจาแล้ว เขาไม่ยอมรับเรื่องนี้ เราก็จะไม่เจรจากับเขาในเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าเราไม่ยอมรับในเรื่องที่เราจะเสียผลประโยชน์" รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ในกรอบการเจรจาการค้านี้ มีหลายเรื่องรวมถึงเรื่องยาด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไทยจะต้องยอมรับในทุกเรื่อง แต่ต้องต่อรองตามที่เราต้องการ เช่น ในเรื่องเกี่ยวกับยา หากไม่เสียประโยชน์ใดๆ ทั้งเรื่องการขยายสิทธิบัตรยา การคุ้มครองตัวยา ก็ถือว่าจบ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเพราะรัฐบาลมีหลักการที่ชัดเจนอยู่แล้ว
"การเจรจากรอบการค้าโดยทั่วไปนั้น หากเริ่มต้นมาตรการที่จะมีผลเสียต่อประเทศไทย เราจะหยุดชั่วคราวก่อน เพราะถือว่าอยู่ระหว่างการเจรจา และถ้าเราเริ่มต้นเจรจาก่อนที่ผลจะออกมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเป็นผลดีกับประเทศมากกว่าไม่เจรจา ฉะนั้นการที่เราไปยุติ บอกว่าไม่อยากจะเริ่มต้นการเจรจา จะมีแต่ผลเสียต่อประเทศ"น.พ.ประดิษฐ กล่าว