คลัง-คมนาคมเร่งแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านลบ. เตรียมเสนอครม.ม.ค.56

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 5, 2012 18:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิชญ โรจนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กำลังเร่งจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ทางสบน.กำลังพิจารณาโครงการร่วมกับทางกระทรวงคมนาคมเพื่อบรรจุในแผนลงทุน เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคมนี้และเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ภายในเดือนมกราคม 2556 เพื่อเสนอเข้าสู่รัฐสภาต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากที่พิจารณาโครงการลงทุนในเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นโครงการของกระทรวงคมนาคมเกือบทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทของกระทรวงคมนาคมล่าสุด ซึ่งรมว.คมนาคมมีความจริงจังที่จะผลักดันโครงการต่างๆ เข้ามาไว้ในแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศระยะ 7 ปี ดังกล่าว โดยเฉพาะการลงทุนทางระบบรางและรถไฟทั้งรถไฟฟ้าธรรมดาและรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะถูกบรรจุในแผนลงทนทั้งหมด ทั้งการปรับปรุงระบบรางคู่ทั่วประเทศรวมอาณัติสัญญาณและรั้วกั้นบริเวณที่เป็นจุดตัดกับถนนทั่วประเทศ คาดใช้เงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ซึ่งตัดสั้นลงจากเดิมที่จะยาวไปถึงเชียงใหม่ เนื่องจากง่ายต่อการก่อสร้างและผ่านการทำอีไอเอ ส่วนการขยายต่อไปเชียงใหม่น่าจะเป็นแผนระยะต่อไป และยังมีสายกรุงเทพฯ-โคราช กรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-หัวหิน เนื่องจากเห็นว่าเป็นเส้นที่น่าจะมีผู้ใช้บริการมาก และมีรายได้เลี้ยงตัวได้ โดยรวมแล้วน่าจะใช้เงินหลายแสนล้านบาท

"ขณะนี้กระทรวงคมนาคมให้ทางจีนและญี่ปุ่นเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนของรถไฟความเร็วสูงทั้ง 4 เส้นทางแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกใครเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการลงทุนหรือให้สัมปทานหรือใช้รูปแบบใด ส่วนรถไฟสายสีต่างๆ ที่เชื่อมโยงการเดินทางในกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งหมดก็จะอยู่ในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวด้วย แต่ขณะนี้กำลังหารือกับคมนาคมเพื่อดูความชัดเจนว่าสายใดจะลงมือก่อสร้างได้จริงภายใน 7 ปีนี้ เพราะบางสายก็อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี อย่างสายสีแดงผ่านมา 3 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก"นายสุวิชญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวได้มีการปรับใหม่โดยได้ตัดโครงการเกี่ยวกับพลังงาน สื่อสาร สาธารณูปการ ออกทั้งหมดเพราะไม่พร้อมและและอาจมาเบียดการลงทุนทางด้านระบบขนส่งที่มีความจำเป็นกว่า โดยนอกจากขนส่งทางรางแล้วอาจมีทางอากาศ และทางบกบางส่วนที่เป็นถนนเชื่อมจากกาญจนบุรีไปยังทวาย

ส่วนท่าเรือนั้นอาจจะทำได้ยาก โดยเฉพาะที่ปากบารา เนื่องจากมีการต่อต้านจากชุมชน จึงอาจไม่อยู่ในแผนลงทุนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ที่ยังสรุปไม่ได้เพราะยังหาโครงการที่พร้อมมาใส่ให้ครบไม่ได้เพราะหน่วยงานนั้นๆไม่อยากถูกผูกมัด โดยจริงๆ แล้ววงเงินอาจจะเหลือ 1.8-1.9 ล้านล้านบาท แต่หากรวมการลงทุนของเอกชนที่ได้รับสัมปทานไปผ่านระบบพีพีพี ในโครงการมอเตอร์เวย์เส้นทางกรุงเทพ-โคราช ก็น่าจะถึง 2 ล้านล้านบาทพอดี นอกจากนั้นทางรมว.คลังได้ขอให้บรรจุโครงการลงทุนพัฒนาด่านศุลกากรทางภาคใต้ที่ผ่านไปมาเลย์ด้วยเพื่อให้มีความทันสมัยเท่าเทียมกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ