ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคครัวเรือนทั่วยูโรโซนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและพยายามลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะยอดการซื้อสินค้านอกกลุ่มอาหารที่ร่วงลงหนักมากในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลผลิตทางเศรษฐกิจหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส และอัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.7% โดยประชาชนกว่า 18.7 ล้านคนไม่มีงานทำ
การเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของยูโรโซนมีขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่อีซีบีจะประชุมในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อตัดสินใจว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในปัจจุบันหรือไม่