อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังมีมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อให้ภาคเอกชนไทยนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ flow ของธุรกรรมต่างประเทศตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้โดยรวมภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี - ปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.9% โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีการแข็งค่าเร็วถึง 3.5% โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3/55 ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค
ด้านนางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธปท.จะออกมาตรการเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม โดยจะผ่อนคลายให้นักลงทุนรายย่อยไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องขอนุญาตจากธปท. จากเดิมที่ต้องขออนุญาต
และในช่วงต้นเดือนม.ค.56 จะมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มในส่วนการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของบุคคลธรรมดา โดยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ของไทยไปลงทุนต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากธปท. นอกจากนี้จะมีการผ่อนคลายเกี่ยวกับมาตรการของผู้มีบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศ (FCD) โดยผู้ที่มีภาระผูกพันเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศสามารถฝากเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศได้เต็มจำนวนภาระผูกพันโดยไม่จำกัดระยะเวลา จากเดิมที่กำหนดภาระผูกพันไม่เกิน 1 ปี สามารถฝากเงินได้ไม่เกิน 100 ล้านเหรียญฯ