ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์ รับความเชื่อมั่นเยอรมนีสดใส

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 12, 2012 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐติดต่อกัน 2 วันทำการ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.51% แตะที่ 1.3006 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2940 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.24% แตะที่ Stg/dlr 1.6112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6074 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.510 เยน จากระดับ 82.330 เยน และอ่อนค่าลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9322 ฟรังค์ จากระดับ 0.9332 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.39% แตะที่ 1.0525 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0484 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.43% แตะที่ระดับ 0.8384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8348 ดอลลาร์สหรัฐ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 6.9 ในเดือนธ.ค. จาก -15.7 ในเดือนพ.ย. อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรปจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า แม้ธนาคารกลางเยอรมนีเพิ่งปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศลงก็ตาม

ทั้งนี้ ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2555 ลงสู่ระดับ 0.7% จากเดิมที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 1.0% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2556 จะขยายตัวเพียง 0.4% จากเดิมที่ 1.6% ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายโบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า เขายังคงมีความหวังว่าพรรคเดโมแครทและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณได้ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐรอดพ้นจากการเผชิญภาวะหน้าผาการคลัง ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.9% จากเดือนก.ย. แตะ 4.224 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกหดตัว ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนต.ค.หดตัวลง 3.6% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.8051 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 2.1% แตะ 2.2275 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากมาตรการ Operation Twist (การขายพันธบัตรระยะสั้นและเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลง) จะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ