ณ เวลา 07.30 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% แตะที่ 109.63 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.1% แตะที่ 1.3089 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นหลังจากนายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ว่า บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลภาคธนาคารที่เป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับอีซีบี ซึ่งมีขึ้นหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) ได้ยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าอียูได้ดำเนินการก้าวแรกที่มีความสำคัญในการจัดตั้งสหภาพการธนาคาร
นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ประกาศว่า ยูโรกรุ๊ปได้อนุมัติการเบิกจ่ายเงิน 4.91 หมื่นล้านยูโร (ราว 6.41 หมื่นล้านดอลลาร์) แก่กรีซภายใต้แผนช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศครั้งที่ 2
นายยุงเกอร์กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า การเบิกจ่ายเงินจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยคาดว่าจะมีการจ่ายเงินแก่กรีซ 3.43 หมื่นล้านยูโรในอีกไม่กี่วันนี้ และส่วนที่เหลือจะมีการเบิกจ่ายในต้นปีหน้า
เขากล่าวเสริมว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังการพิจารณาในขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้องของกรีซ และหลังจากที่มีการพิจารณาทบทวนผลของการดำเนินการซื้อคืนตราสารหนี้ของกรีซ
ยูโรกรุ๊ปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เห็นพ้องกันเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าหนี้สาธารณะของกรีซควรลดลงมาอยู่ที่ 124% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2563 จากเดิมที่ระบุไว้ที่ 120% โดยผ่านทางมาตรการลดหนี้เพิ่มเติม ส่วนค่าเงินเยนอ่อนตัวลงหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 4 ปีนี้ย่ำแย่ลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ลดลงมาอยู่ที่ -12 จาก -3 ในไตรมาสที่แล้ว และเทียบกับโพลล์ของเกียวโดที่คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ -10 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการนอกภาคการผลิตอยู่ที่ +4 ซึ่งลดลงจากเดิมที่ +8