ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(
ส.อ.ท.) คาดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยใน 56 จะขยายตัวได้มากกว่า 5% โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง และกลุ่ม
วัสดุก่อสร้าง ในการลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ การขยายโรงงานของภาคธุรกิจ และการสร้างที่อยู่อาศัย ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น การปรับขั้นค่าแรงขั้นต่ำ การขาดแคลนแรงงาน และสถานการณ์ทางการเมือง
"เศรษฐกิจปีหน้าจะคึกคักประมาณ 5+ แต่ยังคงต้องดูสถานการณ์โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือความผันผวนที่เกิดขึ้น แม้เศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มโตไม่มากหรือค่อนข้างทรงตัว แต่ระบบเศรษฐกิจของเรายังมีประสิทธิภาพที่ดี" นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน
ส.อ.ท.กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม:วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และรองรับ AEC"
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่นที่ออกมาจะไม่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ต้องจับดูเรื่องสถานการณ์ส่งออกที่หดตัว และเงินเยนปรับตัวแข็งค่า ขณะที่นักธุรกิจญี่ปุ่นยังเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) เนื่องจากไทยมีความพร้อมเรื่องระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรมในหลายอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมด้วยการเพิ่มองค์ความรู้ ปรับปรุงการบริหารจัดการ โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี อุปกรณ์และเครื่องจักรที่ทันสมัย
ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานนั้น ส.อ.ท.ได้ทำหนังสือไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาผ่อนผันขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวเพื่อขึ้นทะเบียนที่จะครบกำหนดภายในสิ้นปีนี้ออกไปก่อน
อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--