สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,698.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1687.50 - 1701.00 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.9 เซนต์ ปิดที่ 32.28 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.7 เซนต์ ปิดที่ 3.666 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1608.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 6.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 698.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.75 ดอลลาร์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สัญญาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนธ.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ -8.1 จากระดับ -5.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ -1.0
ทั้งนี้ ตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในอุตสาหกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนคติกัต ยังคงอ่อนแอจนถึงช่วงปลายปี
นักลงทุนยังคงจับตาดูการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่านายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เห็นชอบกับข้อเสนอที่ให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักของการเจรจาเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง