นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมประเมินเสถียรภาพระบบการเงินและเห็นว่าควรติดตามภาวะสินเชื่อและหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด ข้อมูลถึงปัจจุบันบ่งชี้ว่า ถึงแม้ในภาพรวมการขยายตัวของสินเชื่ออุปโภคบริโภคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่คุณภาพของลูกหนี้สินเชื่ออุปโภคบริโภคยังอยู่ในเกณฑ์ดี จึงยังไม่กระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทยแต่อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้บางกลุ่มได้ในอนาคต โดยเฉพาะ ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (Specialized Financial Institutions: SFIs) คณะกรรมการฯ ได้หารือถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ SFIs ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพระบบการเงินมากขึ้น และรับทราบผลการประสานงานร่วมกันระหว่าง ธปท. กับกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางปรับปรุงบทบาทของ SFIs ในอนาคต
ด้านการกำกับดูแลสถาบันการเงิน การปฏิรูปหลักเกณฑ์การกำกับดูแล (Regulatory Reforms) ในส่วนของเกณฑ์เงินกองทุนตาม Basel III คณะกรรมการฯ เห็นว่าระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีความเข้มแข็งและพร้อมจะดำเนินการได้ แต่สำหรับการปฏิรูปกฎเกณฑ์อื่น ๆ ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤติการเงินโลกที่ผ่านมา ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและยุโรปนั้น คณะกรรมการฯ คาดว่าจะยังไม่ส่งผลต่อระบบธนาคารพาณิชย์ไทยโดยตรงมากนัก