สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างข้อมูลจากค่ายรถทั้ง 3 แห่งว่า ยอดผลิตรถยนต์ของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ลดลง 38.7% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 50,528 คัน แต่เป็นการลดลงในอัตราที่ช้าลง เมื่อเทียบกับที่ลดลง 61.1% ในเดือนตุลาคม
ยอดผลิตรถยนต์ในจีนของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ลดลง 43.3% แตะที่ 68,090 คัน ขณะที่ยอดผลิตของบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ดิ่งลง 59.9% แตะที่ 26,592 คัน
อย่างไรก็ดี ยอดการผลิตในต่างประเทศโดยรวมของโตโยต้าและฮอนด้าสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกกายน เนื่องจากยอดผลิตที่เพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือและในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย
ยอดผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 21.8% แตะ 435,413 คัน ของฮอนด้าทะยาน 47.6% แตะ 247,393 คัน ส่วนของนิสสันลดลง 6.8% สู่ระดับ 301,165 คัน
ส่วนในประเทศญี่ปุน ยอดผลิตรถยนต์ของโตโยต้าลดลง 6.9% แตะที่ 257,783 คัน อันเนื่องมาจากยอดขายรถยนต์ในประเทศชะลอตัวลง หลังโครงการให้เงินอุดหนุนในการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานของรัฐบาลหมดอายุลง
ยอดผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นของนิสสันอยู่ที่ 93,607 คัน ลดลง 22.1% และฮอนด้าอยู่ที่ 71,978 เพิ่มขึ้น 32.3%
นิสสันและฮอนด้ามียอดส่งออกลดลง 35.9% และ 27.5% ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลงในยุโรป ท่ามกลางวิกฤตหนี้สินในภูมิภาค ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์โตโยต้าเพิ่มขึ้น 2.8% แตะที่ 153,037 เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและโอเชียเนีย