คณะกรรมการระบุว่า ปัจจัยหลักที่หนุนการขยายตัวก็คือการผลิตที่พุ่งขึ้น 12.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีของภาคการผลิตด้านชีวการแพทย์ และหากไม่นับรวมภาคดังกล่าว ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 0.9% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีการแพทย์ต่างก็ทำสถิติขยายตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ขยายตัว 13.2% เนื่องมาจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของส่วนผสมด้านเวชภัณฑ์ ในขณะเดียวกัน อุปสงค์ด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งของอุปกรณ์การแพทย์ยังมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์ขยายตัว 11.9%
ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมเคมีขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมีขยายตัว 0.2% และ 2.9% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี คณะกรรมการระบุว่า “อุตสาหกรรมเคมีเฉพาะทางขยายตัว 10.8% อันเนื่องมาจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่สูงขึ้นสำหรับเคมีอาหารและสารผสมน้ำมันเชื้อเพลิง"
แต่อย่างไรก็ดี การผลิตของอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ของสิงคโปร์หดตัวลง 2.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ถึงแม้ว่าอัตราการหดตัวจะชะลอลงจากการหดตัว 6.0% ในเดือนตุลาคม อุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูลทะยานขึ้น 82.0% ส่วนใหญ่เนื่องมาจากฐานข้อมูลที่ระดับต่ำในปีที่ผ่านมา ในขณะที่เหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลต้องสะดุดลง และโดยภาพรวม การผลิตของภาคอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ในช่วง 11 เดือนแรกหดตัวลง 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในการเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ขยายตัว 1.9% ในเดือนพฤศจิกายน สำนักข่าวซินหัวรายงาน