นาย
สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก
กระทรวงการคลัง เผยว่าไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2555 (กรกฎาคม — กันยายน 2555) ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 46,483 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 44,019 ล้านบาท โดยรัฐบาลมีรายได้ทั้งสิ้น 781,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 73,605 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.4 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต โดยเฉพาะภาษีรถยนต์ และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้ สำหรับการเบิกจ่ายของภาครัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 827,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 164,107 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 เป็นผลจากการเบิกจ่ายของรัฐบาล อปท. และบัญชีนอกงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น
จากดุลการคลังในไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้ปีงบประมาณ 2555 ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 264,556 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของ GDP) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8,905 ล้านบาท สำหรับดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและทิศทางของนโยบายการคลังของรัฐบาลอย่างแท้จริง โดยไม่นับรวมรายได้และรายจ่ายจากดอกเบี้ยและการชำระคืนต้นเงินกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 102,437 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ GDP) สูงกว่าปีที่แล้ว 38,980 ล้านบาท
“การขาดดุลการคลังภาครัฐบาลในปีงบประมาณ 2555 เป็นการแสดงให้เห็นทิศทางนโยบายการคลังของประเทศในภาพรวม ที่อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพต่อไป" นายสมชัย กล่าว
อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--