สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหลูกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในงานสัมมนาเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งวานนี้ พร้อมกับแนะว่า รัฐบาลควรมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการขยายตัวอย่างยั่งยืนและควบคุมเงินเฟ้อนำเข้าให้มากขึ้น
เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ มาตรการกระตุ้น และการที่ตลาดมีเสถียรภาพ ซึ่งนายหลูกล่าวว่า ปัจจัยเหล่านี้จะยังคงผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า
นอกจากนี้ เขายังเตือนว่า จีนอาจเผชิญเงินเฟ้อนำเข้าที่รุนแรงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากสภาพคล่องที่มีอยู่มากเกินไปทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
จีดีพีของจีนในไตรมาส 3 ขยายตัว 7.4% จากปีก่อน ซึ่งชะลอตัวเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกันและเป็นอัตราขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก ขยายตัว 2% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตราขยายตัวที่ 1.7% ในเดือนต.ค.
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนมีกำหนดเปิดเผยอัตราการขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 4 และจีดีพีปี 2555 ในวันที่ 18 ม.ค.นี้