ประธานาธิบดีคาวาโกกล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณตามที่ตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศ "อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องควบคุมให้งบประมาณของรัฐปี 2556 สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า งบประมาณดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ภายหลังได้รับอนุมัติจากรัฐสภาและการลงนามของประธานาธิบดีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีคาวาโกได้เตือนว่าหากไม่มีการปรับลดยอดขาดดุลอย่างเข้มงวด โปรตุเกสอาจสูญเสียองค์ประกอบนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่ใช้การได้ และอาจประสบกับผลกระทบขั้นรุนแรงจากภายนอก
ไม่เพียงเท่านี้ ประธานาธิบดีประตุเกสยังยอมรับว่า มาตรการรัดเข็ดขัดยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจแล้ว
"เราต้องปรับดุลบัญชีและลดหนี้สาธารณะ แต่เราไม่อาจเพิกเฉยได้เลยว่า ในปี 2555 มีความชัดเจนว่ากระบวนการปรับลดดุลบัญชีสาธารณะที่มาพร้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเชิงลบ มีแนวโน้มไม่สามารถบริหารจัดการได้ในสังคม" นายคาวาโกกล่าว
"อัตราการว่างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยหนุ่มสาว เริ่มถึงระดับที่น่ากังวล" โดยอัตราว่างงานของโปรตุเกสแตะระดับสุดสุดทำสถิติใหม่ในเดือนพ.ย. ที่ 16.3%
"หลายครอบครัวถูกบีบให้ลดต้นทุนการใช้จ่ายในทุกๆวัน และธุรกิจขนาดเล็กหลายรายปิดกิจการจากความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลง เราจะหยุดวงจรภาวะถดถอยอย่างเร่งด่วน ซึ่งทำให้ความต้องการที่ลดลงนำไปสู่การปิดกิจการและอัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น" นายคาวาโกแถลงต่อประชาชนโปรตุเกสในสาส์นปีใหม่ผ่านทางโทรทัศน์
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีคาวาโกคาดการณ์ในเชิงบวกว่า "ปี 2556 จะเป็นปีในการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทิศทางเชิงลบที่เราพบในการผลิตและการจ้างงานในประเทศ จะเป็นปีที่สภาพอากาศช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และการลงทุนทางธุรกิจจะเริ่มขยายตัว"