สศก. ทุ่มกว่า 80 ลบ.เดินหน้าขยายการดำเนินงานนิคมการเกษตรปี 56-ขยายโครงการอีก 2 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 3, 2013 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอารีย์ โสมวดี รองเลขาธิการและรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ในปี 2556 การดำเนินงานโครงการนิคมการเกษตร ได้รับงบประมาณรวม 80.60 ล้านบาท ที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การสูบน้ำช่วยเหลือชาวนา การบำรุงรักษาคลองส่งน้ำ การผลิตและจัดหาเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด การบริการวิเคราะห์ดิน การจัดทำแปลงต้นแบบ การใช้เทคโนโลยีการผลิต และการก่อนสร้างอาคารแปรรูปผลผลิต เป็นต้น

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการติดตามสนับสนุนการดำเนินโครงการนิคมการเกษตร ครั้งที่ 2/2555 ได้มีการพิจารณาผลการดำเนินงานนิคมการเกษตรปี 2555 ที่ได้รับงบประมาณ รวม 165.14 ล้านบาท จำนวน 17 นิคม ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยี การสร้างโอกาสทางการตลาด และการพัฒนากลไกการรวมกลุ่มเกษตรกร ส่วนใหญ่ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ ยังมีการติดตามการดำเนินงานโดยศูนย์ประเมินผลในนิคมการเกษตรจำนวน 9 นิคม ซึ่งพบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจมาก โดยเกษตรกรมีการปรับใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีที่ร้อยละ 53 ได้รับการตรวจวิเคราะห์ดินร้อยละ 70 มีการปรับปรุงบำรุงดินตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ร้อยละ 85 และมีการใช้พื้นที่ในการทำนาเป็นหลักเต็มศักยภาพมากถึงร้อยละ 96 ทั้งนี้ พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการ เกษตรกรร้อยละ 54 มีต้นทุนการผลิตข้าวลดลง และมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 66 รวมทั้งมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 89

อย่างไรก็ตาม จากการที่โครงการนิคมการเกษตรระยะที่ 1 จะสิ้นสุดในปี 2557 ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก 2 ปี โดยจะสิ้นสุดโครงการในปี 2559 เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ในระยะปานกลาง และกำหนดให้นิคมการเกษตรจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการ ซึ่งร่วมกับหน่วยงานเจ้าภาพและหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการจัดทำแผนงาน/โครงการตามความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งดำเนินการสำรวจความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ เพื่อศึกษาความเหมาะสมในการเพิ่มจำนวนนิคมจากเดิม 20 แห่ง ของการดำเนินโครงการระยะที่ 2 อันจะผลักดันให้นิคมการเกษตรเป็นฐานทรัพยากรการผลิตทางการเกาตรที่สำคัญ ทั้งนี้ พื้นที่ นิคมการเกษตรที่ได้รับการพัฒนาโดยผ่านกระบวนการตามขั้นตอนระยะสั้นและระยะปานกลางแล้ว จะเป็นฐานการผลิตของภาคการเกษตรในระยะยาวต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ