(เพิ่มเติม) "กิตติรัตน์"มองศก.ปี 56 โตดี-มีเสถียรภาพ เน้นดูแลเงินบาท-ดอกเบี้ยไม่ให้ผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 3, 2013 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองด้านเศรษฐกิจวันนี้ว่า ได้มีการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาวินัยการคลังสหรัฐ(Fiscal cliff) ซึ่งแนวโน้มเชื่อว่าสหรัฐฯ จะมีการดำเนินการที่เข้มงวดในทางวินัยการคลังมากขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโลกในระยะยาว แต่ในระยะสั้นสหรัฐคงต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการ QE เพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและมีการจ้างงานมากขึ้น
"ในระยะสั้น จะหวังสหรัฐฯ เป็นกลจักรทางเศรษฐกิจของโลกคงจะไม่ได้ ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องมีหน้าที่ในการดูแลความพร้อมของประเทศตัวเองด้วย"นายกิตติรัตน์ กล่าว

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 56 มองว่ายังมีเสถียรภาพ และยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง หรืออาจเติบโตได้ดีกว่าปี 55 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)คาดว่าเติบโตราว 5.5% แต่จะต้องดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยไม่ให้เกิดความผันผวนมาก

พร้อมเชื่อว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะถือว่าเป็นปีที่มีศักยภาพอีกปี และรัฐบาลจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ เกิดความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยยังเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้ควรจะดีเท่ากันหรือดีกว่าในปี 55 ซึ่งคาดว่าจะโตได้เกิน 5% โดยในปีนี้จะเน้นการเพิ่มกำลังซื้อในประเทศเป็นโจทย์หลัก ตามด้วยการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งต้นปีนี้จะตรงกับไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 56 ที่ขณะนี้ถือว่ามีความพร้อมในส่วนของงบลงทุนภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนที่ควรจะมีความต่อเนื่อง

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ในปี 56 อยากเห็นความมีเสถียรภาพในส่วนนโยบายการเงิน ทั้งในส่วนอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย ไม่ต้องการเห็นความผันผวนที่มากจนเกินไป

"อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย ควรมีความราบเรียบและราบรื่น ถือว่าการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี" นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายกิตติรัตน์ ระบุด้วยว่า การท่องเที่ยวในปีนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยปี 55 มีจำนวนสูงถึง 21.5 ล้านคน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ถึง 20 ล้านคน ดังนั้น รัฐบาลอาจจะมีการทบทวนเป้าหมายนักท่องเที่ยวสำหรับปี 56 อีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งไว้ 22.5 ล้านคน

ส่วนภาคการส่งออกนั้น เชื่อว่าปีที่ผ่านมาภาพรวมการส่งออกไทยคงไม่ถึงกับติดลบ และขอรอดูตัวเลขในเดือนธ.ค.55 ก่อน ขณะที่สถานการณ์ในปี 56 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัวราว 9% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 56 คงไม่สามารถพึ่งภาคส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย

ภาพรวมอัตราการว่างงานของปี 55 อยู่ที่ มีอัตราการว่างงานที่ 0.6% เงินทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับ 1.88 แสนล้านบาทถือว่ายังมีเสถียรภาพที่ดีมาก ขณะที่ดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัด รวมทั้งค่าเงินบาทยังมีเสถียรภาพที่ดีพอสมควร

รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ในปีนี้จำเป็นต้องติดตามมาตรการการจ้างงาน และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งความกังวลของผู้ประกอบการนั้นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้หารือถึงมาตรการสำหรับบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการไว้แล้ว

ดังนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะนำมาตรการที่ได้หารือกับภาคธุรกิจและมีข้อตกลงกันไว้กว่า 10 มาตรการเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยเชื่อว่า ครม.น่าจะให้ความเห็นชอบ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ