นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ระบุว่า การลงทุนในพม่าโดยภาคเอกชนมีจำนวนเพิ่มขึ้นภายหลังการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาล
นายอู คิน เมียง โซ รัฐมนตรีพลังงานไฟฟ้าของพม่าเรียกร้องให้เอกชนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มการลงทุนเพื่อลดงบประมาณค่าใช้จ่ายรายปีของรัฐบาลลงและเพิ่มปริมาณการจ่ายไฟให้กับประชาชน
ปัจจุบัน พม่ากำลังศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินทั้งหมด 2 โครงการ และลงนามในเอ็มโอยูสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซธรรมชาติ 3 โครงการ โครงการโรงไฟฟ้าจากก๊าซและพลังงานอื่นๆ 1 โครงการ และลงนามในเอ็มโอยูโรงไฟฟ้าจากก๊าซและพลังงานอื่นๆอีก 2 โครงการ ซึ่งจะดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างเอกชนในประเทศและต่างประเทศ
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พม่าได้เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติขนาด 500 เมกกะวัตต์ในเขต Thakayta ของย่างกุ้ง จากความร่วมมือกับบริษัทเกาหลีใต้ 5 แห่ง
ทั้งนี้ พม่าผลิตไฟฟ้าได้ 9.71 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงในระหว่างปี 2554-55 แต่ยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ
เนื่องจากการขาดแคลนพลังงานจำนวนมาก รัฐบาลพม่าจึงพยายามผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดีเซล ถ่านหิน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังลม ก๊าซชีวภาพ และเชื้อเพลิงหมุนเวียน นอกเหนือไปจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในปัจจุบัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน