นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV ของรัฐบาลมูลค่ารวมประมาณ 13,000 ล้านบาทที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการที่จะมีรถเมล์ใหม่มาบริการประชาชน แต่เป็นห่วงเรื่องของราคากลางในการจัดซื้อที่ตั้งไว้สูง ซึ่งอาจทำให้งบประมาณในการจัดซื้อสูงกว่าความเป็นจริงถึง 3,000 ล้านบาท
อีกทั้งหากการประมูลในครั้งนี้เป็นการประมูลในลักษณะสัญญาเดียวก็อาจจะเข้าข่ายการล็อคสเปคเหมือนกรณีการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 4,000 คันในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นรัฐบาลควรดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ระบุให้มีการแบ่งสัญญาการประมูลออกเป็น 10 สัญญา สัญญาละ 300 คัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม
นอกจากนี้ นายไพบูลย์ ยังกล่าวเน้นย้ำให้รัฐบาลดำเนินการประมูลตามกฎหมายของ ป.ป.ช. มาตรา 103 (7) ที่ระบุให้รัฐบาลต้องเสนอการคิดราคาและการคำนวณราคากลางอย่างเปิดเผยและรวมให้บริษัทที่จะทำการประมูลจะต้องแจ้งรายการรับ-จ่าย ต่อกรมสรรพากรเมื่อสิ้นสุดการประมูลด้วยเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส