นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมเชิงปฎิบัติการการบูรณาการแผนการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ประเทศ และยุทธศาสตร์การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า การประชุมครั้งนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในส่วนของการเตรียมการของภาครัฐ ทั้งนี้จะนำความคืบหน้าที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ไปหารือกับภาคเอกชนเพื่อจะทำเป็นแผนปฎิบัติการภาพรวมต่อไป
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้คงจะต้องทำความเข้าใจกับหน่วยงานของภาครัฐ เพราะหน่วยงานภาครัฐจะคุ้นเคยแต่การปฎิบัติ แต่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์จะเป็นเรื่องของการมีความคิดที่ตกผลึกที่ชัดเจน ทั้งนี้ในส่วนโครงการที่กระทรวงต่างๆ นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมจำนวน 4 พันโครงการนั้น เป็นเรื่องของโครงการที่ทำในงานประจำอยู่แล้ว และหลายส่วนอาจจะเป็นการปฎิบัติตามปกติที่มีการทบทวนยกระดับคุณภาพเรื่องของภารกิจบ้างในระดับหนึ่ง และยังคงเป็นแนวคิดแบบเดิมๆ
"ที่ผ่านมายังไม่ได้ตอบสนองยุทธศาสตร์ใหม่ เพราะการมียุทธศาสตร์ใหม่ กรอบคิดใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของการเป็นสมาชิกในเออีซีที่จะต้องเป็นโครงการจำนวนที่น้อยกว่านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าหากมียุทธศาสตร์ใหม่และต้องไปยกเลิกของเดิม" นายกิตติรัตน์ กล่าว
โดยหลังจากนี้จะเป้นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาบุคลากรด้านฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพเพื่อเตรียมพร้อมรองรับประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป