ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.37% แตะที่ 1.3115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3067 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.27% แตะที่ 1.6114 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6071 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 87.750 เยน จากระดับ 88.120 เยน และดิ่งลง 0.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9213 ฟรังค์ จากระดับ 0.9242 ฟรังค์
เทรดเดอร์ในตลาดปริวรรตเงินตรามุ่งความสนใจไปที่การประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าที่ประชุมจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% แต่ก็มีการคาดการณ์ทั้ง 2 แบบบว่า นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีอาจส่งสัญญาณ หรือไม่ส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต่อๆไป ขณะเดียวกันก็มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดว่า อีซีบีอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นั่นก็อาจส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ในระหว่างวันนนั้น เงินยูโรถูกแรงขายกดดัน หลังจากที่มีการเปิดเผยราคาผู้ผลิตในยูโรโซนที่ชะลอตัวลงในเดือนพ.ย. โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นข้อมูลหนึ่งที่ใช้ชี้วัดภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้น 2.1% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ก็อาจทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้